Business Partner Privacy Policy

Business Partner Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
ของบริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด

บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทฯ เช่น คู่ค้า ผู้ประกอบการ ผู้รับจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้ขายสินค้า โดยประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

1. ขอบเขตการมีผลใช้บังคับ

1.1 บุคคลที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ

ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ (“ท่าน”) เช่น คู่ค้า ผู้ประกอบการ ตัวแทนจัดจำหน่าย ผู้ค้าปลีก ผู้ขาย ผู้รับจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้มาติดต่อเสนอราคา รวมถึงพนักงาน/ลูกจ้างของผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทฯ บุคคลอ้างอิง ผู้ค้ำประกัน


2. ข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม

2.1 แหล่งที่มาของข้อมูล

  1. 2.1.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

    บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงจากขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ผ่านช่องทางต่างๆ ที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียมไว้ เช่น เว็บไซต์ อีเมล์ แอพพลิเคชั่น ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line Official Account) โทรศัพท์ โทรสาร ข้อความ (SMS) แบบสอบถาม ใบลงทะเบียน ใบสมัครใช้บริการ ใบส่งสินค้า หรือช่องทางอื่นใด

  2. 2.1.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น

    บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น คู่ค้าของท่าน ผู้ซื้อหรือผู้ใช้บริการ ของท่าน หรือจากการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของท่าน เช่น จากนิติบุคคลที่ท่านเป็นผู้แทน/ตัวแทน จากหน่วยงานหรือองค์กรเดิมที่ท่านเคยปฏิบัติงาน หน่วยงานราชการ

  3. 2.1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม

    บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลจากบุคคลที่สามซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่านโดยท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวกับบริษัทฯ เช่น สมาชิกในครอบครัว บุคคลอ้างอิง บุคคลรับรองผลงาน ผู้ถือหุ้น ผู้ค้ำประกัน ผู้ค้าปลีก ผู้รับจ้างช่วง ผู้ใช้บริการ ผู้รับสินค้า โดยบริษัทฯ เก็บรวมรวบข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านเพื่อประโยชน์แก่ตัวท่าน

    ทั้งนี้ ท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลที่สามซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่านทราบถึงประกาศคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลฯ ฉบับนี้ รวมทั้งท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลที่สามทราบถึงสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล ที่สามตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562


3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในข้อ 6 เท่านั้น ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ เป็นรายกรณีไป โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

3.1 ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้

  1. 3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา คือ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ หรือบุคคลทั่วไป
    ประเภทของข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล
    ข้อมูลส่วนบุคคล
    • ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด
    • ลายมือชื่อ
    • รูปถ่าย
    • ข้อมูลเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาทะเบียนบ้าน
    ข้อมูลติดต่อ
    • ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่ปัจจุบัน สถานที่ทำงาน
    • หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์
    ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน
    • ระดับการศึกษา
    • อาชีพและสาขาอาชีพ
    • รายละเอียดงาน ประเภทธุรกิจ ตำแหน่ง
    • หนังสือรับรองการปฏิบัติงาน
    ข้อมูลทางการเงิน การทำธุรกรรม
    • เลขที่บัญชีธนาคาร
    • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
    ข้อมูลทางเทคนิค
    • ภาพเคลื่อนไหวและเสียงจากการบันทึกวิดีโอ
    • ภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
    • ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแอพพลิเคชั่นของบริษัทฯ
  2. 3.1.2ข้อมูลส่วนบุคคลของนิติบุคคล คือ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลนั้นมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เช่น กรรมการผู้จัดการ ผู้ถือหุ้น ผู้บริหารระดับสูง ผู้รับมอบอำนาจ
    ประเภทของข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล
    ข้อมูลส่วนบุคคล
    • ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด
    • ลายมือชื่อ
    • รูปถ่าย
    • ข้อมูลเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาทะเบียนบ้าน
    ข้อมูลติดต่อ
    • ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่ปัจจุบัน สถานที่ทำงาน
    • หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์
    • รูปถ่ายร้านค้า/สำนักงาน
    ข้อมูลการทำงาน
    • อาชีพและสาขาอาชีพ
    • รายละเอียดงาน ประเภทธุรกิจ ตำแหน่ง
    ข้อมูลประกอบการทำธุรกรรม
    • เอกสารจดทะเบียนนิติบุคคล/หนังสือรับรองบริษัทฯ
    • บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
    • เอกสารแสดงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • งบดุล บัญชีกำไรขาดทุน และรายงานทางการเงิน
    • สัญญา ข้อตกลง บันทึกความเข้าใจ
    • หนังสือมอบอำนาจ

3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data)

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กำหนดไว้ตามมาตรา 26 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ยกเว้นแต่เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในข้อ 6 เท่านั้น เช่น ข้อมูลสุขภาพจากผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ข้อมูลอุณหภูมิร่างกาย ข้อมูลผลการฉีดวัคซีน

ในกรณีที่บริษัทฯ เรียกเก็บสำเนาบัตรประชาชนของท่าน ยกเว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ เก็บสำเนาบัตรประชาชนของท่านโดยมีความจำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลศาสนาและ/หรือหมู่โลหิต บริษัทฯ ขอให้ท่านทำข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถมองเห็นได้ โดยขอให้ท่านขีดฆ่าข้อมูลศาสนาและ/หรือหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่บนหน้าสำเนาบัตรประชาชน เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวซึ่งเป็นข้อมูล ส่วนบุคคลอ่อนไหวจากท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้ทำการขีดฆ่า บริษัทฯ จะถือว่าท่านยินยอมให้บริษัทฯ ขีดฆ่าข้อมูลดังกล่าวได้เอง


4. การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมของบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที เว้นแต่เป็นกรณีที่มีฐานทางกฎหมายให้อำนาจบริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ทั้งนี้บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับท่านและบริษัทฯเท่านั้น


5. วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

  1. 5.1 เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทฯ ในประเทศไทย
  2. 5.2 เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทฯ ในต่างประเทศ

6. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีฐานทางกฎหมาย ทั้งนี้ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายจะเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ จึงขอให้เลือกใช้วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายเป็นรายกรณีไป

  1. 6.1 ฐานทางกฎหมายตามการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
    • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัทฯ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ กฎหมายแรงงาน กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
    • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดที่อาจติดต่อ หรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร
  2. 6.2 ฐานทางกฎหมายตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
    • เพื่อการดำเนินการทางการตลาดที่ไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่านตามกฎหมาย เช่น การสะสมคะแนนของท่านสำหรับการรับสิทธิประโยชน์ที่บริษัทฯ กำหนด การส่งคำอวยพรหรือของสมนาคุณ
    • เพื่อการดำเนินการภายในที่เกี่ยวข้อง เช่น การติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานภายในและภายนอกบริษัทฯ เพื่อการจัดทำประวัติของผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพื่อการขอให้ผู้มีอำนาจในบริษัทอนุมัติคำร้องขอ เพื่อการทำรายงานภายในบริษัทฯ
    • เพื่อการกำกับดูแล การตรวจสอบภายใน ประเมินความเสี่ยงของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทฯภายในเครือ เพื่อให้บริษัทฯ บรรลุวัตถุประสงค์ในการประเมินและปรับปรุงประสิทธิผลของกระบวนการบริหารความเสี่ยง การควบคุม การกำกับดูแลอย่างเป็นระบบและเป็นระเบียบ
    • เพื่อการดำเนินการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทฯ รวมถึงบริเวณโดยรอบบริษัทฯ อาจมีการบันทึกภาพของท่านผ่านทางระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)
    • เพื่อการดำเนินการต่างๆ ในการพิจารณา ตรวจสอบ สอบสวน รวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อมีข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ข้อพิพาทอันเกี่ยวเนื่องกับบริษัทฯ ที่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลของท่าน
  3. 6.3 ฐานทางกฎหมายตามการปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) และความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
    • เพื่อการพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลท่าน และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กระบวนการในขั้นตอนของการเสนอราคาและการเจรจาต่อรองสำเร็จเรียบร้อยไปตลอด เช่น การส่งใบนัดหมาย/ใบต่อรองราคาทางอีเมล์ การทำนามบัตรสำหรับการติดต่อ
    • เพื่อการพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้อง การยืนยันตัวตน และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กระบวนการในขั้นตอนการคัดเลือกและเก็บประวัติสำเร็จเรียบร้อยไปตลอด เช่น การทำคู่เทียบ การตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจ และเอกสารประกอบหนังสือมอบอำนาจ เช่น หนังสือมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชน ผู้มอบอำนาจ หนังสือรับรองบริษัท รายชื่อกรรมการที่มีอำนาจในการลงนาม บัญชีรายชื่อ ผู้ถือหุ้น และการตรวจสอบใบเสนอราคา พร้อมเงื่อนไขการชำระเงิน
    • เพื่อการพิจารณา ตรวจสอบ และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กระบวนการในขั้นตอนของการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างสำเร็จเรียบร้อยไปตลอด เช่น การตอบรับยืนยันใบเสนอราคา การประกาศความเป็นผู้ชนะราคา การทำบันทึกภายในและส่งให้กับผู้มีอำนาจอนุมัติการจัดซื้อจัดจ้าง
    • เพื่อการพิจารณา ตรวจสอบ การจัดทำสัญญาและ/หรือใบสั่งซื้อ (Purchase Order) และ/หรือตามคำขอของท่าน และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กระบวนการในขั้นตอนดังกล่าวสำเร็จเรียบร้อยไปตลอด เช่น การตรวจสอบเอกสารประกอบการจัดทำสัญญาเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เช่น สัญญาโครงการก่อสร้าง หนังสือค้ำประกัน หนังสือรับรองบริษัท บัตรประชาชนกรรมการบริษัท และการทำสัญญาค้ำประกัน
    • เพื่อการดำเนินการต่างๆ ในขั้นตอนของการปฏิบัติตามสัญญา และ/หรือตามคำขอของท่าน เช่น การพิจารณา/ยืนยันตัวตนเพื่อการอนุญาตเข้าปฏิบัติงาน การบันทึกใบงานขนส่งสินค้า/ ใบรับสินค้า การติดตามสถานะการขนส่งสินค้า การให้ข้อมูลของท่านกับลูกค้าเพื่อการใช้บริการของลูกค้า
    • เพื่อการดำเนินการต่างๆ ในขั้นตอนภายหลังสัญญาสิ้นสุด เมื่อมีประเด็นหรือข้อพิพาทเกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับสัญญาดังกล่าว เช่น การเรียกค่าปรับ การเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น
    • เพื่อการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท เช่น การดำเนินตามคำร้องขอของท่านเมื่อท่านขอให้ใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน
    • เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย และการยกข้อต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ
  4. 6.4 ฐานทางกฎหมายตามการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) และการปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) และความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
    • เพื่อการดำเนินการต่างๆ ในขั้นตอนของกระบวนการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและ/หรือการ ชำระเงิน เช่น การออกใบแจ้งการชำระหนี้ การวางบิล/ใบชำระหนี้ การโอนเงิน การชำระค่าธรรมเนียม การชำระหนี้ การทำใบเสร็จรับเงิน การจัดทำใบกำกับภาษี การหักภาษี ณ ที่จ่าย การตัดบัญชีลูกหนี้เป็นหนี้สูญ การทำบันทึกตั้งเจ้าหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศ การทำรายงานภาษีขาย/ภาษีซื้อ การทำใบลดหนี้/ใบเพิ่มหนี้ การทำใบส่งสินค้า

    โดยบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือบุคคลที่สามตามฐานทางกฎหมายที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ให้อำนาจไว้ได้โดยไม่จำต้องขอความยินยอม อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่บริษัทอาจต้องขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้ง เนื่องจากฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งบริษัทฯ จะขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทาง “แบบฟอร์มให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” ต่อไป ทั้งนี้ในกรณีของบุคคลที่สามซึ่งเกี่ยวข้องกับท่าน หากมีกรณีที่บริษัทฯ จะต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง ท่านจะต้องเป็นผู้ดำเนินการขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลของบุคคลที่สามให้กับบริษัทฯ

    บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านในกิจกรรมตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

  5. 6.5 ฐานทางกฎหมายตามฐานการยินยอม (Consent)

    เพื่อการดำเนินการใดๆ ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความยินยอมของท่าน

    บริษัทฯ ขอแจ้งว่าในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญานั้น ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้ข้อมูล ส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมาย สัญญา การเข้าทำสัญญา หรือการให้บริการบางประการกับท่านได้ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในขั้นตอนดังกล่าวนั้น

    ข้อมูลใดๆ ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวบและใช้ข้อมูลดังกล่าวได้ต่อไปภายใต้วัตถุประสงค์เดิม ทั้งนี้หากท่านไม่ประสงค์จะให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลที่ได้รับจากท่านก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดเอาไว้เป็นอย่างอื่น ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมให้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล โดยการติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามช่องทางที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียมไว้ในข้อ 12 ของประกาศฯ


7. การเปิดเผยข้อมูล

บริษัทฯ อาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ดังต่อไปนี้

  1. 7.1 การบริหารจัดการภายในองค์กร
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นสำหรับการบริหารจัดการต่างๆ ภายใต้ประกาศนี้เพื่อประโยชน์ของท่านและผู้อื่นมากขึ้น
  2. 7.2 การบังคับใช้กฎหมาย
    ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยราชการ เช่น ศาล หน่วยราชการอื่น
  3. 7.3 พันธมิตรทางธุรกิจ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อติดต่อและประสานงานตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้
  4. 7.4 บริษัทภายในเครือ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างให้กับบริษัทที่อยู่ภายในเครือของบริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับท่าน
  5. 7.5 ผู้ให้บริการ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับผู้ให้บริการ สำหรับดำเนินการต่างๆ เช่น การฝึกอบรม สัมมนา การบริการขนส่ง การบริการเก็บรักษาและทำลายเอกสาร การบริการด้านการตลาด การบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมายหรือภาษี
  6. 7.6 การโอนถ่ายธุรกิจ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวม หรือการขายกิจการ หรือการถ่ายโอนทรัพย์สินอื่นๆ โดยที่ฝ่ายรับโอนข้อมูลจะต้องปฏิบัติกับข้อมูลของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับประกาศนี้ รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

8. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หรือเพื่อให้การปฏิบัติตามสัญญาลุล่วงเสร็จสมบูรณ์

บริษัทฯ จะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว


9. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิดำเนินการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. 9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม (Right To Withdraw Consent)
    หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
  2. 9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (Right To Access)
    ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
  3. 9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (Right To Data Portability)
    ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
  4. 9.4 สิทธิขอคัดค้าน (Right To Object)
    ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินการที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
  5. 9.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (Right To Erasure/Destruction)
    ท่านมีสิทธิที่จะขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านมีความเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประกาศ ฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้น
  6. 9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (Right To Restriction Of Processing)
    ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิ ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
  7. 9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (Right To Rectification)
    ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. 9.8 สิทธิร้องเรียน (Right To Lodge A Complaint)
    ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ บริษัทฯ จะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล์ โทรศัพท์ จดหมาย

10. การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลไปยังบุคคล องค์กร หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่ได้ระบุไว้ในข้อ 6 เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะใช้ความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสำคัญ โดยจะส่งหรือโอนข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และบริษัทฯ จะดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอหรือกรณีอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด


11. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ อาจตรวจสอบแล้วทำการ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยกเลิก ประกาศคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลฯ ฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทุกครั้ง

ประกาศฉบับนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565


12. รายละเอียดของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมาที่ คณะทำงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด ที่อีเมล์ pdpa@smparts.co.th

บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด
127,129,129/1 ถ. เฉลิมพระเกียรติ ร.9
แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ 02-726-8080