Visitor Privacy Policy

Visitor Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับบุคคลที่เข้า – ออก ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบ
ของ บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด

บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด (“บริษัท”) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้ความคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล และการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สำหรับบุคคลที่เข้า - ออก ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ เพื่อการยืนยันตัวตน การตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยให้แก่ พนักงาน ทรัพย์สิน บุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฯ ฉบับนี้ เพื่อเผยแพร่และประกาศถึงวิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

บทนำ

  1. 1. บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยการให้ความเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่นๆ สำหรับบุคคลที่เข้า - ออก ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ
  2. 2. บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการยืนยันตัวตน ควบคุมการเข้า – ออก เฝ้าระวัง ป้องกัน รักษาความปลอดภัยของพนักงานหรือบุคลากรภายในของบริษัทฯ ผู้มาปฏิบัติงานบริษัทฯ ผู้มาติดต่อฯ ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใดที่มีความเกี่ยวข้องและได้เข้า – ออกภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ รวมถึงทรัพย์สินหรือสัมภาระของบุคคลดังกล่าว
  3. 3. วัตถุประสงค์ของประกาศฯ ฉบับนี้ คือเพื่อการยืนยันตัวตน กำกับดูแล บริหารจัดการ ในการควบคุมการเข้า – ออกของบุคคล ทรัพย์สินและ/หรือสัมภาระของบุคคลดังกล่าว รวมถึงทรัพย์สินของบริษัทฯ

1. ขอบเขตการมีผลใช้บังคับ

1.1 บุคคลที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ

ประกาศนี้มีผลใช้บังคับกับบุคคลที่เข้า - ออก ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ (“ท่าน”) เช่น พนักงานหรือบุคลากรภายในของบริษัทฯ ผู้มาปฏิบัติงานบริษัทฯ ผู้มาติดต่อบริษัทฯ ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีความเกี่ยวข้องและได้เข้า – ออกภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ

1.2 ขอบเขตในการบังคับใช้

ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับพื้นที่ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบที่อยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯ


2. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

บริษัทฯ มีวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลหรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

  1. 2.1 การแลกบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวตนอย่างอื่นซึ่งสามารถจำแนกหรือระบุตัวตนของท่าน ออกจากบุคคลอื่นได้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่
  2. 2.2 การบันทึกประวัติของท่านในการเข้า – ออกพื้นที่ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบที่อยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจจดบันทึกดังกล่าวให้อยู่ในรูปแบบของแบบฟอร์มเอกสาร แบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ หรืออื่นๆ เช่น การบันทึกหมายเลขทะเบียนรถยนต์ของท่าน
  3. 2.3 การบันทึกข้อมูลสุขภาพของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับพิจารณาการเข้า – ออกพื้นที่ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบที่อยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯ เช่น การวัดอุณหภูมิของท่าน

3. แหล่งที่มาของข้อมูล

บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงผ่านขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น การแลกบัตร การลงทะเบียน การเก็บบันทึก การแสดงหลักฐาน


4. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในข้อ 7 เท่านั้น ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจะเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ เป็นรายกรณีไป โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

4.1 ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ข้อมูลดังต่อไปนี้
ประเภทของข้อมูล ตัวอย่างข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคล
  • ชื่อ นามสกุล
  • ลายมือชื่อ
  • รูปถ่าย
  • ข้อมูลเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ใช้ ในการระบุและยืนยันตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่
ข้อมูลติดต่อ
  • ที่อยู่ปัจจุบัน สถานที่ทำงาน
  • หมายเลขโทรศัพท์
ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน
  • หมายเลขทะเบียนรถยนต์ สี รุ่น ยี่ห้อรถ
4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data)

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กำหนดไว้ตามมาตรา 26 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ไม่มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ยกเว้นแต่เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในข้อ 7 เท่านั้น เช่น ข้อมูลสุขภาพ

ในกรณีที่บริษัทฯ เรียกเก็บสำเนาบัตรประชาชนของท่าน ยกเว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ เก็บสำเนาบัตรประชาชนของท่านโดยมีความจำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลศาสนาและ/หรือหมู่โลหิต บริษัทฯ ขอให้ท่านทำข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถมองเห็นได้ โดยขอให้ท่านขีดฆ่าข้อมูลศาสนาและ/หรือหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่บนหน้าสำเนาบัตรประชาชน เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจากท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้ทำการขีดฆ่า บริษัทฯ จะถือว่าท่านยินยอมให้บริษัทฯ ขีดฆ่าข้อมูลดังกล่าวได้เอง


5. การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมของบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที เว้นแต่เป็นกรณีที่มีฐานทางกฎหมายให้อำนาจบริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ทั้งนี้บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับท่านและบริษัทฯ เท่านั้น


6. วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์


7. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และมีฐานทางกฎหมาย ทั้งนี้วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายจะเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ จึงขอให้เลือกใช้วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายเป็นรายกรณีไป

  1. 7.1 ฐานทางกฎหมายตามการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
    • เพื่อส่งหรือใช้สำหรับจัดทำเอกสารให้กับองค์กรของรัฐ หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งอำนาจหน้าที่จากรัฐ ในกรณีที่ได้รับคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย
    • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตราย
  2. 7.2 ฐานทางกฎหมายตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
      เพื่อการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการควบคุมการเข้า – ออกภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ
    • เพื่อการยืนยันตัวตนสำหรับการเข้า – ออก ภายในอาคารและ/หรือบริเวณโดยรอบของบริษัทฯ
    • เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจสอบ ดูแล รักษา ปกป้อง ขจัดภยันอันตราย ในชีวิต ร่างกาย อนามัยส่วนบุคคล ทรัพย์สินส่วนตัวของท่านรวมถึงบุคคลอื่น
    • เพื่อป้องกัน ปกป้อง สิทธิประโยชน์ของบริษัทฯ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    • เพื่อการดำเนินการที่จำเป็นสำหรับการจัดการภายในของบริษัทฯ และ/หรือที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทฯ เช่น การตรวจสอบภายใน
    • เพื่อใช้ในการตรวจสอบ สืบสวนในกรณีที่เกิดปัญหาข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
  3. 7.3 ฐานทางกฎหมายตามการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) และความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
    • เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย และการยกข้อต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ
  4. 7.4 ฐานทางกฎหมายตามการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interests)
    • เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของท่าน

    โดยบริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามฐานทางกฎหมายที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ให้อำนาจไว้ได้โดยไม่จำต้องขอความยินยอม อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่บริษัทฯ อาจต้องขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้ง เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งบริษัทฯ จะขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทาง “แบบฟอร์มให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” ต่อไป

    บริษัทฯ ขอแจ้งว่าในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญานั้น ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมาย สัญญา การเข้าทำสัญญา หรือการให้บริการบางประการกับท่านได้ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในขั้นตอนดังกล่าวนั้น

    ข้อมูลใดๆ ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวบและใช้ข้อมูลดังกล่าวได้ต่อไปภายใต้วัตถุประสงค์เดิม ทั้งนี้หากท่านไม่ประสงค์จะให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลที่ได้รับจากท่านก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดเอาไว้เป็นอย่างอื่น ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมให้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล โดยการติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามช่องทางที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียมไว้ในข้อ 12 ของประกาศฯ


8. การเปิดเผยข้อมูล

บริษัทฯ อาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ดังต่อไปนี้

  1. 8.1 การบริหารจัดการภายในองค์กร
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นสำหรับการบริหารจัดการต่างๆ ภายใต้ประกาศนี้เพื่อประโยชน์ของท่านและผู้อื่นมากขึ้น
  2. 8.2 การบังคับใช้กฎหมาย
    ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หน่วยงานราชการอื่น
  3. 8.3 บริษัทภายในเครือ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างให้กับบริษัทที่อยู่ภายในเครือของบริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับท่าน
  4. 8.4 ผู้ให้บริการ
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับผู้ให้บริการ สำหรับดำเนินการต่างๆ เช่น ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัย
  5. 8.5 บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
    บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การเปิดเผยข้อมูลให้ผู้เช่าอาคาร

9. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หรือเพื่อให้การปฏิบัติตามสัญญาลุล่วงเสร็จสมบูรณ์

บริษัทฯ จะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว


10. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิดำเนินการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. 10.1 สิทธิขอถอนความยินยอม (Right To Withdraw Consent)
    หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิ ที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
  2. 10.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (Right To Access)
    ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
  3. 10.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (Right To Data Portability)
    ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าว ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
  4. 10.4 สิทธิขอคัดค้าน (Right To Object)
    ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินการที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
  5. 10.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (Right To Erasure/Destruction)
    ท่านมีสิทธิที่จะขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านมีความเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้น
  6. 10.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (Right To Restriction Of Processing)
    ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิ ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
  7. 10.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (Right To Rectification)
    ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. 10.8 สิทธิร้องเรียน (Right To Lodge A Complaint)
    ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ บริษัทฯ จะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทปฏิเสธคำขอ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล์ โทรศัพท์ จดหมาย

11. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ อาจตรวจสอบแล้วทำการ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยกเลิก ประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทุกครั้ง

ประกาศฉบับนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565


12. รายละเอียดของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมาที่ คณะทำงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด ที่อีเมล์ pdpa@smparts.co.th

บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด
127,129,129/1 ถ. เฉลิมพระเกียรติ ร.9
แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ 02-726-8080